ผลการดำเนินงานปี 2543
ที่ ผดม.ก.02.10/2544
22 กุมภาพันธ์ 2544
เรื่อง ผลการดำเนินงานปี 2543
เรียน กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
บริษัทฯ ขอนำส่งเอกสารข่าวแจ้งผลการดำเนินงาน ปี 2543 ต่อสื่อมวลชน เมื่อวันที่ 22
กุมภาพันธ์ 2544 มาพร้อมนี้ ดังรายละเอียดปรากฏตามเอกสารที่แนบ
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ
ขอแสดงความนับถือ
(นายพินิต วงศ์มาศา)
ประธานกรรมการบริหาร
ส่วนเลขานุการคณะกรรมการบริษัท
โทร. 661-9900 ต่อ 1501, 1402
Press Release
ข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ
บริษัท ผาแดงอินดัสทรี จำกัด (มหาชน)
ส่วนประชาสัมพันธ์
22 กุมภาพันธ์ 2544
โทร.661-9900 ต่อ 2301-2
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------
ผาแดงฯแจ้งผลดำเนินงานปี 43 มีกำไรสุทธิ 323.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 88 %
บริษัท ผาแดงอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) แจ้งผลประกอบการในรอบปี 2543 มีกำไร
สุทธิ 323.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 88 % จากในปี 2542 พร้อมเผยแผนดำเนินงานปี 2544 เพิ่ม
การผลิตและขายโลหะสังกะสีผสมเป็น 40,000 เมตริกตัน เพิ่มขึ้น 100 % เพื่อสร้างรายได้
เพิ่ม นอกจากนี้บริษัทฯยังประสบผลสำเร็จในการรีไฟแนนซ์เงินกู้ระยะยาวในช่วงอัตราดอก
เบี้ยบาทต่ำลง ส่งผลให้สามารถลดภาระจ่ายดอกเบี้ยลงได้ถึงปีละ 50 ล้านบาท
วันนี้ (22 กุมภาพันธ์ 2544) บริษัท ผาแดงอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) แจ้งผลประกอบการประ
จำปี 2543 ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า จากงบการเงินเฉพาะบริษัทมีกำไรสุทธิ 323.7 ล้าน
บาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 88 เมื่อเทียบกับปี 2542 ซึ่งมีกำไรสุทธิ 171.8 ล้านบาท สำหรับงบการเงินรวม
บริษัทฯและบริษัทในเครือมีกำไรสุทธิ 211 ล้านบาท และกำไรต่อหุ้น 1.27 บาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 45 เมื่อ
เทียบกับปี 2542 ซึ่งมีกำไรสุทธิ 145 ล้านบาท และกำไรต่อหุ้น 0.96 บาท
บริษัทฯมีผลกำไรเพิ่มขึ้นมากเนื่องจากบริษัทฯมีปริมาณการผลิตและการขายโลหะสังกะสีเพิ่ม
ขึ้น ประกอบกับภาวะตลาดในประเทศเริ่มฟื้นตัวจากภาวะเศรษฐกิจ และราคาโลหะสังกะสีโลกได้ปรับ
ตัวสูงโดยมีราคาขายเฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ 1,133 เหรียญสหรัฐฯต่อเมตริกตัน เทียบกับปีก่อนซึ่งเฉลี่ยที่
1,041 เหรียญสหรัฐฯต่อเมตริกตัน รวมทั้งผลจากค่าเงินบาทที่อ่อนตัวลง ส่งผลให้บริษัทฯมีมูลค่าขาย
เพิ่มสูงขึ้น โดยมีรายได้รวม 5,400 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 919 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 20.5
ในปี 2543 บริษัทฯมียอดการผลิตโลหะสังกะสีทั้งสิ้น 101,144 เมตริกตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 6
จากปี 2542 ซึ่งผลิตได้ 95,363 เมตริกตัน โดยผลิตเป็นโลหะสังกะสีแท่งจำนวน 77,526 เมตริกตัน
และโลหะสังกะสีผสม 23,618 เมตริกตัน ขณะที่บริษัทฯขายโลหะสังกะสีได้รวม 100,485 เมตริกตัน
เพิ่มขึ้นร้อยละ 5 จากปีก่อนที่มียอดขาย 96,012 เมตริกตัน แบ่งเป็นการขายในประเทศ 72,635
เมตริกตัน และส่งออก 27,850 เมตริกตัน คิดเป็นสัดส่วนการขายในประเทศร้อยละ 72 และส่งออก
ร้อยละ 28 เทียบกับปี 2542 ที่มีสัดส่วนร้อยละ 67 และ 33 ตามลำดับ
…./2
-2-
สำหรับแผนการดำเนินงานปี 2544 บริษัทฯวางแผนการผลิตและจำหน่ายโลหะสังกะสี
ประมาณ 100,000 เมตริกตัน ซึ่งใกล้เคียงกับปี 2543 และในปีนี้บริษัทฯจะขยายการผลิตโลหะ
สังกะสีผสมเป็น 40,000 เมตริกตันต่อปี เพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 100 จากปีที่แล้ว เพื่อให้เป็นไปตาม
นโยบายเพิ่มมูลค่าการขายให้มากขึ้น บริษัทฯได้คาดการณ์ความต้องการใช้โลหะสังกะสีในประเทศ
จะมีจำนวน 95,000 เมตริกตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 5 จากในปีที่แล้วซึ่งมีจำนวน 90,000 เมตริกตัน ดัง
นั้น บริษัทฯจึงยังเน้นการขายในประเทศเป็นหลัก โดยตั้งเป้าขายในประเทศไว้ร้อยละ 72 และส่งออก
ร้อยละ 28
ผลประกอบการของบริษัทที่มีผลกำไรเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและมีภาระหนี้ที่ลดลงมาก ทำให้
บริษัทฯมีความมั่นคง ส่งผลให้สถาบันการเงินทั้งในและต่างประเทศมีความเชื่อมั่นต่อการดำเนินงาน
ของบริษัทฯ และแสดงความสนใจเสนอบริการสินเชื่อหลายราย ประกอบกับปัจจุบันอัตราดอกเบี้ย
บาทอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำ บริษัทฯจึงได้ดำเนินการจัดหาแหล่งเงินกู้ใหม่ (Refinancing) มาชำระ
คืนเงินกู้ระยะยาวเดิมซึ่งเมื่อสิ้นปี 2543 มีจำนวนรวม 1,252 ล้านบาท ประกอบด้วยสกุลเงินบาท
และสกุลเงินเหรียญสหรัฐฯ โดยบริษัทฯได้ลงนามในสัญญาเงินกู้ 3 ฉบับ จำนวนเงินรวม 1,000 ล้าน
บาท มีระยะเวลาการกู้ 3-5 ปี กับสถาบันการเงินจำนวน 3 แห่ง และได้นำรวมกับเงินของบริษัทฯที่ได้
จากผลการดำเนินงานไปชำระคืนเงินกู้เดิมเมื่อวันที่ 31 มกราคมที่ผ่านมา
ผลจากการชำระคืนเงินกู้ดังกล่าว ทำให้บริษัทฯสามารถลดภาระดอกเบี้ยจ่ายได้ถึงปีละ
ประมาณ 50 ล้านบาท ทั้งนี้ไม่รวมถึงภาระดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลงอีกกว่าปีละ 70 ล้านบาท จากการที่
บริษัทฯได้นำเงินจากการเพิ่มทุนไปชำระคืนเงินเงินกู้บางส่วนในปีที่แล้ว ดังนั้นภาระดอกเบี้ยจ่ายของ
บริษัทฯตั้งแต่ปี 2544 เป็นต้นไปจะลดลงอย่างมาก และจะส่งผลให้บริษัทฯมีผลประกอบการที่ดีขึ้น
บริษัท ผาแดงอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจเหมืองและถลุงแร่สังกะสีแห่งเดียวใน
ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2524 เป็นโรงถลุงสังกะสีที่มีต้นทุน
การผลิตต่ำที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เนื่องจากประสบผลสำเร็จในการใช้แร่สังกะสีซิลิเกตถลุงร่วมกับแร่
สังกะสีซัลไฟด์ในกระบวนการผลิต โดยมีกำลังการผลิตโลหะสังกะสีปีละ 100,000 เมตริกตัน ขณะนี้
อยู่ระหว่างการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต และพัฒนาสินค้าที่มีคุณภาพสูงและตรงตามความ
ต้องการของลูกค้าเฉพาะกลุ่มมากขึ้น โดยความร่วมมือของบริษัท ยูเนี่ยน มิแนร์ จำกัด (ยู.เอ็ม.)
ประเทศเบลเยี่ยม ซึ่งเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจด้านโลหการขนาดใหญ่แห่งหนึ่งของโลก