ที่ ผดม/กท-02-050/2546 14 สิงหาคม 2546 เรื่อง ขอนำส่งงบการเงิน สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2546 และชี้แจงผลการดำเนินงานในไตรมาส ที่สองของปี 2546 เรียน กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สิ่งที่ส่งมาด้วย สำเนางบการเงินเฉพาะของบริษัทและงบการเงินรวมประจำไตรมาสสิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2546 รวม 2 ฉบับ บริษัท ผาแดงอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) ขอนำส่งสำเนางบการเงินเฉพาะบริษัทและงบการเงิน รวมประจำไตรมาสสำหรับงวดหกเดือนสิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2546 ที่ผ่านการสอบทานโดยผู้สอบ บัญชี มาพร้อมนี้รวม 2 ฉบับ ทั้งฉบับภาษาไทยและภาษาอังกฤษ และขอชี้แจงผลการดำเนินงานที่เปลี่ยน แปลงไปดังนี้ ใน 6 เดือนแรกที่ผ่านมา บริษัทฯ ขายโลหะสังกะสี จำนวน 53,857 เมตริกตัน เป็นเงิน 2,270 ล้านบาท คือมียอดขายเพิ่มขึ้นร้อยละ 2 และมีรายได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.4 แต่อย่างไรก็ตาม ในช่วงเดือน มิถุนายนยอดขายต่ำกว่าที่ควรจะเป็นเพราะบริษัทฯ ได้รับผลกระทบจากปริมาณการใช้โลหะสังกะสีที่ลด ลงของลูกค้าในอุตสาหกรรมชุบเคลือบซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของบริษัทฯ ในช่วงเวลาดังกล่าว บริษัทฯ มีต้นทุนแร่วัตถุดิบนำเข้าที่สูงขึ้นเนื่องจากค่า Treatment Charge ที่ต่ำลงมากในตลาดโลก เมื่อเปรียบเทียบราคาเฉลี่ยในช่วงหกเดือนแรกของปี 2545 ราคาเฉลี่ยโลหะสังกะสีโลก (LME) ได้ปรับตัวลดลง 8 เหรียญดอลลาร์สหรัฐต่อเมตริกตันในปี 2546 (โดยราคาเฉลี่ยหกเดือนอยู่ที่ 780 เหรียญดอลลาร์สหรัฐต่อเมตริกตัน) ในขณะที่อัตราแลกเปลี่ยนของเงินบาทต่อเงินเหรียญดอลลาร์ สหรัฐกลับแข็งค่าขึ้นร้อยละ 1.7 ซึ่งปัจจัยภายนอกดังกล่าวส่งผลกระทบในด้านลบต่อผลการดำเนินงาน ของบริษัทฯ บริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่สูงขึ้นโดยเฉพาะในส่วนของค่าไฟฟ้าและราคาน้ำมัน ที่โรงถลุง จ.ตาก ค่าใช้จ่ายในการเกษียณอายุก่อนกำหนดของพนักงาน และการตั้งสำรองการลดลงของ มูลค่าของสินค้าคงเหลืออีกด้วย นอกจากนี้ค่าใช้จ่ายสำหรับการหยุดซ่อมเครื่องจักรประจำปีของโรงถลุง จ.ตาก และเตาย่างแร่ที่โรงงานผลิตแคลไซน์ จ.ระยอง ในเดือนเมษายน ส่งผลกระทบต่อผลการดำเนิน งานในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ด้วยเช่นกัน ในทางด้านบวกนั้นในเดือนมิถุนายน 2546 บริษัทฯ ได้รับเงินคืน จำนวน 20.8 ล้านบาทจากรายการลูกหนี้ที่ได้ตัดจำหน่ายไปแล้ว ผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2546 จากงบการเงินเฉพาะบริษัท บริษัทฯ มีกำไร จากการดำเนินงาน 23.9 ล้านบาท เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วซึ่งมีกำไร 44.7 ล้านบาท นอกจากนั้น บริษัทในเครือได้รายงานผลขาดทุนจำนวน 7.4 ล้านบาท (ตามวิธีส่วนได้เสีย) ซึ่งผลขาดทุน ดังกล่าวส่งผลให้บริษัทฯ มีกำไรก่อนหักต้นทุนทางการเงินลดลงเหลือ 16.5 ล้านบาท (หรือ 14.8 ล้านบาท ในงบการเงินรวม) หลังจากหักค่าใช้จ่ายทางด้านการเงินจำนวน 20.3 ล้านบาทแล้ว บริษัทฯ มีผลขาดทุนสุทธิ ในครึ่งปีแรกจำนวน 3.8 ล้านบาท หรือลดลง 22.4 ล้านบาทเมื่อเทียบกับผลการดำเนินงานในช่วงเดียวกัน ของปีที่แล้ว สำหรับงบการเงินรวม บริษัทฯ มีผลขาดทุนสุทธิจำนวน 5.9 ล้านบาท เทียบกับกำไรสุทธิ จำนวน 15 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ ขอแสดงความนับถือ (นายพินิต วงศ์มาศา) ประธานกรรมการบริหาร ส่วนเลขานุการคณะกรรมการบริษัท โทร. 0 2661 9900 ต่อ 1402, 1501 โทรสาร 0 2661 9946 หน้า 1/2